March ,29 2006 Love Married , Arrange Married………… Blank Mind

        ใครจะไว้ใจอะไรไว้ใจเถิด      แต่อย่าเกิดไว้ใจในสิ่งห้า
หนึ่งอย่าไว้ใจทะเลทุกเวลา          สองสัตว์เขี้ยวเล็บงาอย่าไว้ใจ
สามผู้ถืออาวุธสุดจักร้าย              สี่ผู้หญิงทั้งหลายอย่ากรายใกล้
ห้ามหากษัตริย์ทรงฉัตรชัย           ถ้าแม้ใครประมาทอาจถึงตายฯ

“นิทานเวตาล”

ได้มีโอกาสไปเที่ยวอินเดียเมื่อวันที่ 24-26 ที่ผ่านมาอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ขอเล่าเพราะความสวยงามของสถานที่ที่ไปนั่นไม่ได้ครึ่งนึงของที่ไปภาคเหนือมาเลย
แต่ยังดีหน่อยที่คราวนี้ได้ไปกับหนุ่มๆอินเดียทั้งหลายทำให้ไม่โดนโกงเสียค่าใช้จ่ายไปน้อยมาก

ความจริงก็โดนโกงไปเหมือนกันแต่คนอินเดียโดนคนอินเดียโกงเอง

เพื่อนคนอินเดียคนนี้ชื่อ ซานจี๊บครับ ไปสั่งชาแก้วละ 5  RS แต่พอเก็บจริงๆ พนักงานมันเก็บไป 10 RS
ซ๊านจี๊บจ่ายไปด้วยความเจ็บใจแต่หลังจากคิดไปคิดมา ด้วยศักดิ์ศรีคนอินเดียนั้นจะโดนหลอกกันเองย่อมไม่ดีแน่
เขาเลยไปทวง Manager ของร้านนั้นได้เงิน 5 รูปี คืนมาด้วยความภาคภูมิใจ…..
เขี้ยวกันจริงๆ คนอินเดียนี่

ที่นี่เรื่องที่ผมได้จั่วหัวเอาไว้วันนี้เกี่ยวกับเรื่องการแต่งงาน การแต่งงานภาษาอังกฤษก็คือ Marrie
ส่วน Love Married คือการแต่งงานกันด้วยความรัก
Arrange Married คือการแต่งงานกันด้วยการถูกจัดแจง บ้านเราก็คือการคลุมถุงชนนั่นเอง

เนื่องจากว่าเป็นผู้ชายไปกันหมด(ถึงจะไม่มั่นใจว่าแท้หมดหรือเปล่า) ทำให้ผมได้มีโอกาสคุยกับคนอินเดียเรื่องการแต่งงานได้

เพื่อนอินเดียที่ชื่อ กาน้านดา (Ganadhar)เขาเริ่มถามผมก่อนด้วยประโยคประมาณว่า
GND : อีนี่นาย ที่เมืองไทยการแต่งงานเป็นมั่งไง
ME : ก็ไม่มีอะไรมากใครรักกันก็ให้ผู้ชายไปขอ
GND : แล้วยังมีการคลุมถุงชนอีกไหมนาย
ME : ไม่มีแล้วล่ะมีก็น้อยเอามากๆ แต่สมัยก่อนนานมากๆแล้วประเทศเราก็เยอะเหมือนกัน แล้วที่นี่ละเป็นไงบ้าง
GND : นาย รู้ไหมพวกเราส่วนใหญ่ยังเป็นการคลุมถุงชนกันอยู่ การแต่งงานด้วยความรักมีน้อยมาก
ME : โอ่ว งั้นก็แย่เลยสินาย (เป็นความผิดของผมที่พูดคำนี้ออกไป)
GND : ว่าไงนะนาย ทำไมนายคิดว่ามันแย่ละนาย นายรู้ป่ะว่าที่นี่เรามีอัตราการหย่าร้างไม่ถึง 10 % เลยนะนาย 90 %ของพวกเราอยู่กันอย่างมีความสุขจนแก่เถ้ามีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองกันหมดแล้ว
ME : โห ขนาดนั้นเลยรึ!!!(แกล้งตกใจแบบสุดๆ)แต่การที่เราได้ลองคบกันดูก่อนแต่งจะทำให้เรารู้นะว่าเราเข้ากันได้จริงหรือไม่
GND : งั้นนายก็ต้องเลิกแล้วหาใหม่ไปแบบนี้น่ะหรือ แต่ของเราไม่นะนาย พวกเราต้องแต่งงานกันก่อนแล้วค่อยรักกัน พวกเราต้องรักกัน (เขาใช้คำว่า Have To Love)
ME : Have to? (คิดผิดอีกแล้วที่ถามไปแบบนี้)
GND : (เริ่มเดือด) ใช่มันก็เป็นความรักก็ดีกว่าที่ต้องรักหลายๆคนก่อนแล้วเลิกเพื่อค้นหาคนที่จะมาแต่งานกับเรา
ME : เห็นท่าไม่ดีเลยบอกไปว่า ทั้ง 2 วิธีมีทั้ง Advantage และ Disadvantage ละกัน
GND : ok I agree

จากนั้นก็พยายามเปลี่ยนเรื่องครับ
นี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าความคิดเห็นของคนเรามันไม่มีอะไรถูกหรือผิดมันอยู่ที่ว่าใครมีเหตุผลในการมองมุมไหนมากกว่า

One Response

  1. The Only Debzar April 4, 2006

Leave a Reply